ความเป็นมาในการจัดงานดีเฟ้นส์ แอนด์ ซีคิวรีตี้ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน
งานดีเฟ้นส์ แอนด์ ซีคิวรี้ตี้ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2003 โดยบริษัทได้รับอนุมัติให้เป็นผู้จัดงานจากกระทรวงกลาโหม ตลอดกว่า 20 ปี ที่งานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ 2022 เป็นหนึ่งในงานแสดงยุทโธปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัยที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย และผู้ผลิตชั้นแนวหน้าจากทั่วโลกที่จะเข้าร่วม ทำให้งานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ 2023 เป็นหนึ่งในงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดที่เคยจัดขึ้นในประเทศไทย

งานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ 2023 จะรวบรวมผู้ผลิตยุทโธปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัย 3 เหล่าทัพ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ จัดขึ้นตลอดสี่วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2566 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในปี 2023 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พลังแห่งความร่วมมือ” ด้วยความสำเร็จของงานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ ในปีที่ผ่านมา ปีนี้เราคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 25,000 คนจากทั่วทุกมุมโลก และผู้แทนอย่างเป็นทางการมากกว่า 350 คน ได้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้นำระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันประเทศและความปลอดภัยจาก 35 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงทางหาร ตำรวจ หน่วยงานรัฐบาล และเอกชนที่เกี่ยวข้องของไทยก็จะเข้าร่วมชมงานในครั้งนี้ด้วย
บริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกพร้อมร่วมงาน!
ภายในงานมีผู้ผลิตยุทโธปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำของโลกในอุตสาหกรรมตอบรับเข้าร่วมงาน ซึ่งสามารถพบกับพาวิลเลี่ยนจัดแสดงสินค้านานาชาติจากหลากหลายประเทศ อาทิ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐสิงคโปร์ รัฐอิสราเอล และอีกมากมาย
งานนี้ทางบริษัทได้จัดเต็มในการนำเสนอทั้งเทคโนโลยีทางการทหารและความปลอดภัยล่าสุด เช่น ระบบอาวุธปืน ขีปนาวุธ รถถัง อากาศยานไร้คนขับ(UAV) พาหนะขนส่ง เรือ ระบบดาวเทียม ระบบการสื่อสาร ระบบเทคโนโลยีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์ทางไกล ระบบควบคุมการยิง รวมถึงระบบการสนับสนุนการทหารด้านอื่นๆ ที่ล้ำสมัยและหลากหลายอีกมากมายจาก ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกจะนำมาจัดแสดงในงานด้วย
งานประชุมและสัมมนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่พลาดไม่ได้
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญภายในงานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ 2023 นั่นก็คือ งานสัมมนาและงานประชุมนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันของโลก ที่ทันสมัยและตรงประเด็น ซึ่งในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในหัวข้อที่เกี่ยวกับเรื่องไซเบอร์ซีคิวริตี้ นอกจากนั้น ยังจะมีการสาธิตผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของยุทโธปกรณ์ที่นำมาจัดแสดงภายในงาน รวมไปถึงสัมมนาหัวข้อต่างๆ ที่ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญและข้อมูลใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ที่ผู้จัดงานรวบรวมมาให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้เรียนรู้ และพบปะและพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตและเจ้าของเทคโนโลยีโดยตรง
โอกาสขยายเครือข่ายธุรกิจและความสัมพันธ์ระดับนานาชาติครั้งสำคัญ
นอกจากนี้ภายในงานดีเฟนส์ แอนด์ ซีคิวริตี้ 2023 จะมีการจัดการประชุมหารือระหว่างข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คณะผู้แทนและผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากต่างประเทศ และผู้แสดงสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกโดยเฉพาะจากภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีทั้งการหารือระหว่างภาครัฐ (G2G) และการเจรจาหารือระหว่างภาครัฐกับภาคธุรกิจ (G2B) ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาวที่ยั่งยืนต่อไป
วิสัยทัศน์ในการจัดงาน
ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้การสนับสนุน พัฒนา และส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักและสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมตามนโยบาย S-curve ที่ 11 ของรัฐบาลไทย ซึ่งบริษัทมีความชื่นชม สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ที่มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศในภูมิภาค และพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และนำผลงานการวิจัยและพัฒนาที่ผ่านมาออกสู่สายตาประชาชน
ทั้งนี้เราได้จับมือร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ในการเผยแพร่ความรู้ และข่าวสารข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนพื้นที่การจัดแสดงผลงานวิจัยภายใต้กระทรวงกลาโหมภายในงานอีกด้วย การจัดงาน ดีเฟ้นส์ แอนด์ ซีคิวรีตี้ จะเป็นเวทีสำคัญในการประชาสัมพันธ์ศักยภาพของผู้ประกอบการไทยไปยังสายตาของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศทั่วโลก อีกทั้ง ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ให้ผู้ประกอบการได้พบกับผู้เล่นรายใหม่ๆ เพื่อจับมือกันพัฒนาผลงานและผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวประสานให้กับนักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาพบกับบริษัทเอกชน และหน่วยงานรัฐบาลเพื่อเจรจาเชิญชวนให้มีการเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้นด้วย
